การปกป้องอัตลักษณ์ของแบรนด์

เลื่อนเพื่อค้นพบ

การปกป้องอัตลักษณ์ของแบรนด์

หลุยส์ วิตตอง มีนโยบายด้านการไม่ยินยอมให้มีการปลอมแปลงผลิตภัณฑ์ในทุกรูปแบบเพื่อเป็นการให้ความเคารพต่อความคิดสร้างสรรค์และการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญา

หลุยส์ วิตตอง มีนโยบายด้านการไม่ยินยอมให้มีการปลอมแปลงผลิตภัณฑ์ในทุกรูปแบบเพื่อเป็นการให้ความเคารพต่อความคิดสร้างสรรค์และการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญา การปกป้องความคิดสร้างสรรค์และสิทธิ์ของนักออกแบบ ศิลปิน และแบรนด์ มีความสำคัญต่อการสานต่อความสำเร็จในระยะยาว การปลอมแปลงผลิตภัณฑ์ไม่ใช่แค่เรื่องของการซื้อกระเป๋าราคาถูกบนท้องถนนจากเมืองที่อยู่ห่างไกลในระหว่างวันหยุดพักผ่อนเท่านั้น แต่ถือเป็นภัยคุกคามที่ร้ายแรงในการสืบทอดภูมิปัญญาอันเป็นอัตลักษณ์หลุยส์ วิตตอง

© Louis Vuitton Malletier / Alain-Charles Beau

การเคารพต่อความเป็นเอกลักษณ์อันทรงคุณค่า

การต่อสู้กับการปลอมแปลงผลิตภัณฑ์เป็นองค์ประกอบระยะยาวในกลยุทธ์ด้านความยั่งยืนทั่วโลกของหลุยส์ วิตตอง การปกป้องความคิดสร้างสรรค์และสิทธิ์ของนักออกแบบ ศิลปิน และแบรนด์ มีความสำคัญต่อการสานต่อความสำเร็จในระยะยาว การปลอมแปลงผลิตภัณฑ์ไม่ใช่แค่เรื่องของการซื้อกระเป๋าราคาถูกบนท้องถนนจากเมืองที่อยู่ห่างไกลในระหว่างวันหยุดพักผ่อนเท่านั้น แต่ถือเป็นภัยคุกคามที่ร้ายแรงในการสืบทอดภูมิปัญญาอันเป็นอัตลักษณ์หลุยส์ วิตตอง

หลุยส์ วิตตอง มีนโยบายด้านการไม่ยินยอมให้มีการปลอมแปลงผลิตภัณฑ์ในทุกรูปแบบเพื่อเป็นการให้ความเคารพต่อความคิดสร้างสรรค์และการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญา

การปลอมแปลงผลิตภัณฑ์เป็นการละเมิดต่อความสามารถของผู้ที่รังสรรค์ผลงาน ทักษะของช่างฝีมือ และความคิดสร้างสรรค์ของศิลปินที่มีบทบาทสำคัญต่อความสำเร็จของหลุยส์ วิตตอง การละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาเป็นการบ่อนทำลายความมุ่งมั่นทุ่มเทและองค์ความรู้ที่มีต่อการขับเคลื่อนการเติบโตของบริษัท นอกจากนี้ การปลอมแปลงผลิตภัณฑ์ยังสร้างความเสียหายต่อชุมชน เนื่องจากก่อให้เกิดสภาพการทำงานที่เป็นอันตรายและไม่อาจควบคุมได้ อีกทั้งยังเป็นการละเมิดต่อสิทธิมนุษยชนในลักษณะของการใช้แรงงานที่มีอายุต่ำกว่าเกณฑ์และการใช้แรงงานบังคับ เบื้องหลังของการซื้อกระเป๋าลอกเลียนแบบในราคาถูกนั้นมีราคาสูงที่ต้องจ่ายอยู่เสมอ

หลุยส์ วิตตอง เผชิญกับการปลอมแปลงผลิตภัณฑ์มาตลอดนับตั้งแต่ที่แบรนด์ประสบความสำเร็จในช่วงแรกเริ่ม ทั้งนี้ Georges Vuitton ได้รังสรรค์ Monogram แคนวาสที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ในปี 1896 โดยมีความพยายามที่จะหยุดยั้งผู้ลอกเลียนแบบที่ได้รับแรงดึงดูดมาจากความสำเร็จและสถานะของแบรนด์ในระดับโลก

© Louis Vuitton Malletier / Marc Plante

การรักษาคุณค่าแห่งความคิดสร้างสรรค์

ฝ่ายทรัพย์สินทางปัญญาของหลุยส์ วิตตอง มีการบริหารจัดการสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญามากกว่า 18,000 สิทธิ์ ซึ่งรวมถึงเครื่องหมายการค้า การออกแบบ และลิขสิทธิ์ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากตัวแทน 250 แห่งทั่วโลก การมีทีมงานที่มุ่งมั่นทุ่มเทอย่างเต็มที่ในเรื่องนี้โดยเฉพาะ ทั้งทนายความและอดีตผู้เชี่ยวชาญด้านการบังคับใช้กฎหมายที่ประจำอยู่ในกรุงปารีส พร้อมด้วยสำนักงานประจำภูมิภาคในกรุงโตเกียว ฮ่องกง เซี่ยงไฮ้ ปักกิ่ง โซล มิลาน อิสตันบูล เอเธนส์ ดูไบ นิวยอร์ก และเมนโดซานั้น ทำให้ในแต่ละปีมีการตรวจค้นที่เป็นการต่อต้านสินค้าลอกเลียนแบบหลายพันครั้ง

ในปี 2017 หลุยส์ วิตตอง ได้ริเริ่มดำเนินการต่อต้านสินค้าลอกเลียนแบบมากกว่า 38,000 รายการทั่วโลก (ประกอบด้วยการดำเนินการทางคดีอาญา คดีแพ่ง และศุลกากร) ซึ่งนำไปสู่การทลายเครือข่ายอาชญากรรม และขจัดปัญหาของแรงงานที่ทำงานให้กับองค์กรที่ผิดกฎหมาย แผนกงานด้านอินเทอร์เน็ตของฝ่ายทรัพย์สินทางปัญญาทำการจดทะเบียนชื่อโดเมน ต่อสู้เรื่องการใช้เครื่องหมายการค้าผู้อื่นเป็นโดเมนเนม (Cybersquatting) และติดตามเส้นทางการปลอมแปลงผลิตภัณฑ์ทางออนไลน์ด้วยการตรวจสอบทางอินเทอร์เน็ต โดยเฉพาะบนโปรแกรมสืบค้นและเว็บที่เป็นแหล่งซื้อขาย ซึ่งส่งผลให้มีเว็บไซต์ที่ถูกดำเนินคดีมากกว่า 6,000 เว็บไซต์ต้องปิดตัวลงในปี 2017 และสามารถยุติการประมูลได้มากกว่า 120,000 ครั้ง

© Louis Vuitton Malletier / Benjamin Decoin

การต่อสู้กับความไม่ชอบด้วยกฎหมาย

การจำหน่ายผลิตภัณฑ์ลอกเลียนแบบถือเป็นความผิดร้ายแรง เนื่องจากเป็นการนำรายได้ไปสนับสนุนองค์กรอาชญากรรมอันจะส่งผลเสียต่อผู้บริโภค บริษัท และรัฐบาลต่างๆ ด้วยเหตุนี้ จึงมีความจำเป็นที่จะต้องเรียกร้องให้ผู้มีบทบาททางเศรษฐกิจทุกฝ่ายแสดงพฤติกรรมอย่างมีความรับผิดชอบ หลุยส์ วิตตอง สนับสนุนอย่างเต็มที่ต่อความจำเป็นในการร่วมแบ่งปันความรับผิดชอบตามห่วงโซ่แห่งคุณค่าบนหลักการที่ว่า ทุกคนควรดำเนินธุรกิจของตนโดยมีการตรวจสอบธุรกิจเพื่อปกป้องผู้บริโภคจากอันตรายของผลิตภัณฑ์ลอกเลียนแบบ

ในปี 2003 หลุยส์ วิตตอง เป็นผู้นำในการใช้ “หลักการความรับผิดร่วมกันในการกระทําความผิดของผู้อื่น (Contributory Liability)” เพื่อต่อสู้กับผลิตภัณฑ์ลอกเลียนแบบโดยมีเป้าหมายที่ “คนกลาง” เช่น เจ้าของพื้นที่ บริษัทผู้ให้บริการขนส่ง และหน่วยงานด้านการชำระเงินที่ให้บริการแก่เครือข่ายการปลอมแปลงใต้ดิน โครงการดังกล่าวได้ผลที่มีประสิทธิภาพเป็นอย่างยิ่งในพื้นที่บางแห่งที่เป็นแหล่งสำหรับผลิตภัณฑ์ลอกเลียนแบบ เช่น ถนนคาแนลสตรีทในนครนิวยอร์ก

หลุยส์ วิตตอง เชื่อมั่นอย่างแรงกล้าว่าทั้งโลกออนไลน์และออฟไลน์ควรร่วมกันแบ่งปันโอกาสและความรับผิดชอบบนหลักการที่ว่า ผู้มีบทบาทแต่ละรายควรมีหน้าที่ที่จะต้องใส่ใจและดำเนินขั้นตอนที่เหมาะสมในทุกขั้นตอน เพื่อปกป้องผู้บริโภคจากวิธีปฏิบัติที่นำไปสู่ความเข้าใจผิด

การต่อสู้กับผลิตภัณฑ์ลอกเลียนแบบถือเป็นการต่อสู้ในระยะยาว หลุยส์ วิตตอง มีความมุ่งมั่นมากขึ้นกว่าที่เคยเป็นมาในการปกป้องความคิดสร้างสรรค์เพื่อปกป้องแบรนด์ของตนอันเป็นผลประโยชน์ของลูกค้า พนักงาน และผู้ที่ได้รับผลกระทบจากอุตสาหกรรมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ลอกเลียนแบบ

ผลิตภัณฑ์ของแท้ของหลุยส์ วิตตอง ได้รับการรับประกันจากเครือข่ายการจัดจำหน่ายแบบเอ็กซ์คลูซีฟของหลุยส์ วิตตอง ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์ของหลุยส์ วิตตอง มีจำหน่ายเฉพาะในร้านหลุยส์ วิตตองที่หลุยส์ วิตตองเป็นเจ้าของและเป็นผู้จัดหาพนักงานเท่านั้น รวมถึงการจำหน่ายผ่านทางเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของหลุยส์ วิตตองโดยเฉพาะ: louisvuitton.com