น้ำหอม Fleur du Désert
หลุยส์ วิตตอง เปิดตัวน้ำหอมกลิ่นใหม่ล่าสุด Fleur du Désert ที่มอบความหอมอันตราตรึงจากไม้กฤษณาผ่านฝีมือการปรุงน้ำหอมของ Jacques Cavallier Belletrud ต่อจากน้ำหอม Ombre Nomade, Les Sables Roses และ Nuit de Feu
น้ำหอมกลิ่นนี้ถ่ายทอดเสน่ห์ความหอมจากดอกมะลิ ดอกส้ม และดอกกุหลาบ จากหลากหลายดินแดนในประเทศแถบตะวันออกที่เดินทางมาสู่ทวีปยุโรปภายใต้ความคิดในการรังสรรค์กลิ่นหอมเพื่อสะท้อนความมหัศจรรย์ของธรรมชาติจากถิ่นกำเนิด
ความงดงามแห่งดินแดนทะเลทราย
ดินแดนทะเลทรายที่เผยให้เห็นถึงความมหัศจรรย์อันน่าประทับใจและห้วงแห่งอารมณ์ที่ยากจะลืมเลือน สะท้อนความกว้างใหญ่ไพศาลที่เชื้อเชิญให้เราดำดิ่งสู่โลกแห่งความฝันที่เหนือจินตนาการ สำหรับผลงานการรังสรรค์น้ำหอมกลิ่นที่ห้าในคอลเล็คชั่นนี้ Jacques Cavallier Belletrud มาสเตอร์เพอร์ฟูเมอร์ของหลุยส์ วิตตอง ต้องการถ่ายทอดความมหัศจรรย์แห่งธรรมชาติของดินแดนทะเลทรายจากถิ่นกำเนิดที่เบ่งบานผสานกับองค์ประกอบแห่งความหอมอันเป็นแก่นแท้ที่แสนหรูหรา เพื่อรังสรรค์น้ำหอมที่เปี่ยมด้วยเอกลักษณ์อันทรงคุณค่าที่เป็นมากกว่าน้ำหอมทั่วไป
ความหอมหวานของเกสรดอกไม้
Jacques Cavallier Belletrud รังสรรค์น้ำหอม Fleur du Désert ด้วยการนำตัวเองดำดิ่งสู่โลกแห่ง “ความงดงามที่สมบูรณ์แบบ” ของแหล่งน้ำกลางทะเลทรายที่เต็มไปด้วยพืชพรรณเขียวชอุ่มของดินแดนทะเลทรายในซาอุดิอาระเบีย น้ำหอมกลิ่นใหม่ที่สะท้อนเอกลักษณ์ของสีสันด้วยขั้วตรงกันข้ามนี้ถ่ายทอดกลิ่นที่เปรียบได้ดั่งการสดุดีแด่ดอกไม้แห่งดินแดนตะวันออกกลางสามสายพันธุ์ ที่มีกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์และเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกมาเนิ่นนานหลายศตวรรษ นั่นคือ ดอกมะลิ ดอกส้ม และดอกกุหลาบ ความหอมอันรุ่มรวยและโดดเด่นของไม้กฤษณาจากรัฐอัสสัม ช่วยเพิ่มกลิ่นอายความหอมอันลึกล้ำของไม้หอมและเครื่องเทศได้อย่างตราตรึง
ร่มเงาในทะเลทราย
ในขณะที่ทุกสิ่งดูคล้ายหยุดนิ่งไร้การเคลื่อนไหว ทะเลทรายก็กลับกลายมีชีวิตชีวา และดึงดูดนักเดินทางมาสู่การผจญภัยที่เต็มไปด้วยแรงปรารถนา น้ำหอม Ombre Nomade ที่รังสรรค์ขึ้นสำหรับผู้ที่ชื่นชอบความเป็นเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใครนี้ผสมผสานไม้กฤษณาอันซับซ้อนราวกับเป็นควันที่พวยพุ่ง ซึ่งถูกลมพัดจนก่อเกิดเป็นรูปร่างบนดินแดนทะเลทราย นี่คือน้ำหอมที่เปี่ยมด้วยความเร่าร้อนและเข้มข้นดุจดั่งไฟของแสงอาทิตย์ที่กำลังลาลับขอบฟ้า มาสเตอร์เพอร์ฟูเมอร์ Jacques Cavallier Belletrud นำเอากลิ่นหอมของหนัง เครื่องเทศ และไม้หอมมาผสมผสานกับความซับซ้อนของไม้กฤษณาเข้ากับกลิ่นอายของเครื่องหอมและกลิ่นของราสเบอร์รี่เพื่อให้ได้กลิ่นไม้กฤษณาที่หอมราวกับต้องมนต์สะกด
ร่องรอยแห่งกลิ่นหอมอันเป็นนิรันดร์
น้ำหอม Les Sables Roses ถ่ายทอดแรงบันดาลใจที่ได้มาจากชั่วขณะแห่งโมงยามของกาลเวลาที่ถูกสะกดไว้ด้วยมนต์เสน่ห์แห่งทะเลทราย อันเป็นช่วงนาทีที่ค่ำคืนกำลังจะผ่านพ้นและก้าวไปสู่วันใหม่ มาสเตอร์เพอร์ฟูเมอร์ Jacques Cavallier Belletrud ผสานกลิ่นหอมที่อยู่ในขั้วตรงข้ามอย่างดอกกุหลาบ ไม้กฤษณา และแอมเบอร์กริสเข้าไว้ด้วยกันอย่างกลมกลืน ซึ่งเป็นวัตถุดิบสามชนิดที่คงอยู่มาเนิ่นนานผ่านหลายชั่วอายุคน และเดินทางข้ามผ่านดินแดนต่างๆ จนกลายเป็นกลิ่นแห่ง “ความหอมอันเป็นนิรันดร์” น้ำหอมกลิ่นนี้เปรียบได้ดั่งบทกวีที่สะท้อนความมหัศจรรย์ของทะเลทรายที่ผสานความอบอุ่นเข้ากับรัศมีแรกของดวงอาทิตย์ แต่งแต้มด้วยเฉดสีที่หรูหราของดอกกุหลาบ ซึ่งกลมกลืนเข้ากับเนินทรายและท้องฟ้าได้อย่างงดงาม
ควันพวยพุ่งสู่ท้องฟ้าในยามค่ำคืน
น้ำหอม Nuit de Feu ที่ถ่ายทอดกลิ่นหอมอันหรูหราสง่างาม ดุจดั่งการปะทุของเปลวไฟในยามค่ำคืนท่ามกลางทะเลทรายอันเงียบสงบนี้ มอบกลิ่นหอมจากส่วนผสมที่น่าหลงใหลด้วยกลิ่นโน้ตของเครื่องหอมอันเป็นนิรันดร์ ที่ผสมผสานกับหนังและไม้กฤษณา มาสเตอร์เพอร์ฟูเมอร์ Jacques Cavallier Belletrud เฟ้นหาวัตถุดิบที่เปี่ยมด้วยที่สุดของสัญลักษณ์และความหรูหราสง่างามที่มนุษยชาติเริ่มใช้เพื่อเพิ่มกลิ่นหอมมาตั้งแต่ก่อนกาลและปรุงเข้าด้วยกันเพื่อรังสรรค์น้ำหอมกลิ่นนี้ ที่ถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกและบอกเล่าเรื่องราวที่มีมาเนิ่นนาน อันเปรียบได้ดั่งการปลุกเร้าจิตวิญญาณและการสื่อสารที่ลงลึกไปถึงหัวใจ